|
การ กางเต็นท์ริมทะเล บนเกาะหมากกับเกาะกูดนี่ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่เหมาะกับคนที่ชอบบรรยากาศเงียบสงบและชอบอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติสุดๆ เลยนะ เพราะที่สองเกาะนี้เขายังมีจุดกางเต็นท์เล็ก ๆ กระจายตัวอยู่ตามชายหาดบรรยากาศไม่วุ่นวายเหมือนที่อื่น แล้วลมทะเลเย็น ๆ กับเสียงคลื่นซัดเข้าฝั่งตลอดทั้งคืนเวลาได้นอนในเต็นท์แล้วฟังเสียงคลื่นนี่มันฟินแบบบอกไม่ถูกเลยล่ะ ที่สำคัญคือชายหาดทั้งสองที่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็จะมากันแบบกลุ่มเพื่อนหรือคู่รักมากกว่าไม่ต้องกลัวว่าจะเจอฝูงนักท่องเที่ยวเดินผ่านไปผ่านมาเยอะ ๆ ถ้าใครโชคดีไปช่วงที่คนไม่เยอะ จะรู้สึกเหมือนชายหาดเป็นของเราเอง อยากตื่นมาเล่นน้ำตอนเช้าก็ทำได้จะดูพระอาทิตย์ตกแบบส่วนตัวก็สบายเลยนะ
แน่นอนครับมาเลย... จัดไปยาวๆ กับเรื่องราวของการกางเต็นท์ริมทะเล ที่เกาะหมากและเกาะกูดในมุมเล็กๆ ที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยสัมผัส กางเต็นท์ริมทะเลเกาะหมาก-เกาะกูด: เมื่อชายหาดคือสนามหน้าบ้านและเสียงคลื่นคือเพลงกล่อมที่ดีที่สุด มีใครเป็นเหมือนผมบ้างไหมครับ?ที่บางทีก็เบื่อความวุ่นวายของเมืองจนอยากจะวาร์ปตัวเองไปอยู่เงียบๆริมทะเลสักที่ แต่ครั้นจะให้ไปนอนรีสอร์ตหรูๆ บรรยากาศมันก็ดูจะ"เนี้ยบ" เกินไปหน่อยมันขาดความรู้สึกของการได้เป็นส่วนหนึ่งกับธรรมชาติจริงๆ... และนั่นแหละครับคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้การ "กางเต็นท์" กลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆในใจผมเสมอ แล้วถ้าพูดถึงทะเลฝั่งตะวันออกที่ยังคงความบริสุทธิ์และสงบงามชื่อของ "เกาะหมาก" และ "เกาะกูด"ก็มักจะลอยขึ้นมาเป็นภาพแรกๆ สองเกาะพี่น้องแห่งจังหวัดตราด ที่แม้จะอยู่ไม่ไกลกันแต่กลับมีเสน่ห์ที่แตกต่าง ทว่ามีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน คือการเปิดโอกาสให้เราได้แนบชิดกับธรรมชาติในแบบที่เรียบง่ายที่สุดผ่านการนอนเต็นท์ริมหาดนั่นเอง เกาะหมาก ความสงบงามในวิถีสโลว์ไลฟ์ ลองนึกภาพตามนะครับ...เรานั่งเรือมาถึงเกาะหมาก เกาะที่ไม่มีผับบาร์เสียงดัง ไม่มีร้านสะดวกซื้อที่เปิด 24ชั่วโมงมีแต่ทิวมะพร้าวที่เรียงรายสุดลูกหูลูกตา ถนนสายเล็กๆที่เหมาะกับการปั่นจักรยานหรือขี่มอเตอร์ไซค์ชมวิวและวิถีชีวิตของผู้คนที่ดูจะเดินช้ากว่าบนฝั่งไปหลายสเต็ป การหาจุดกางเต็นท์บนเกาะหมากนั้นบอกเลยว่าเป็นภารกิจที่ต้องใช้ "เสน่ห์" และ "การพูดคุย"นิดหน่อยครับ ที่นี่ไม่ใช่เกาะที่มีลานกางเต็นท์ขนาดใหญ่เป็นกิจจะลักษณะแต่มันคือการมองหา "พื้นที่เล็กๆ ของความใจดี" เสียมากกว่า ส่วนใหญ่มักจะเป็นพื้นที่ท้ายรีสอร์ตเล็กๆหรือบ้านพักของชาวบ้าน ที่เขาพอจะแบ่งปันมุมสงบๆ ริมหาดให้เราได้ตั้งแคมป์ ผมเคยมีประสบการณ์ไปขออนุญาตพี่เจ้าของบังกะโลแห่งหนึ่งแถวอ่าวสวนใหญ่พี่เขามองหน้ายิ้มๆ แล้วก็ชี้ไปที่ลานหญ้าใต้ต้นมะพร้าวริมหาด"ตรงนั้นเลยน้อง ว่างอยู่ เอาเลย แต่อย่าเสียงดังรบกวนแขกคนอื่นเขาล่ะแล้วก็... ช่วยกันรักษาความสะอาดด้วยนะ" แค่นั้นแหละครับสวรรค์ของเราก็บังเกิด ค่ำคืนบนเกาะหมากในเต็นท์หลังน้อยมันคือที่สุดของความฟินจริงๆ นะครับ เราไม่ต้องเปิดแอร์ ไม่ต้องเปิดพัดลมแค่เปิดหน้าต่างเต็นท์ให้ลมทะเลพัดผ่านเข้ามาเบาๆเสียงคลื่นที่ซัดสาดอยู่ห่างไปไม่กี่เมตรกลายเป็นเพลงกล่อมชั้นเลิศแหงนมองฟ้าก็เห็นดาวระยิบระยับเต็มไปหมด เพราะไม่มีแสงไฟจากเมืองมารบกวนตื่นเช้ามาสิ่งแรกที่เห็นเมื่อรูดซิปเต็นท์เปิดคือภาพพระอาทิตย์ขึ้นเหนือขอบทะเล...แค่นี้ก็คุ้มค่ากับการแบกเต็นท์ข้ามน้ำข้ามทะเลมาแล้ว ชีวิตตอนกลางวันก็ง่ายๆครับ ชงกาแฟดริปหอมๆ นั่งจิบหน้าเต็นท์ อ่านหนังสือเล่มโปรดหรือไม่ก็เช่าจักรยานปั่นไปสำรวจอ่าวอื่นๆ ไปกินข้าวร้านตามสั่งของชาวบ้านตกบ่ายก็อาจจะพายคายัคเล่น หรือแค่ลงไปนอนแช่น้ำทะเลใสๆ ให้ตัวลอยตุ๊บป่องมันคือการพักผ่อนที่ได้ "พัก" จริงๆ ได้ชาร์จแบตให้ชีวิตจนเต็มเปี่ยม เกาะกูดสวรรค์ของคนรักน้ำใสและธรรมชาติที่สมบูรณ์กว่า ขยับมาที่เกาะกูดเกาะที่ใหญ่กว่า มีความเป็น "แหล่งท่องเที่ยว"ที่ชัดเจนกว่าเกาะหมากสักหน่อย แต่ก็อย่าเพิ่งคิดว่ามันจะวุ่นวายนะครับเกาะกูดยังคงรักษาความงามของธรรมชาติไว้ได้อย่างน่าทึ่ง ชายหาดสวยๆน้ำทะเลสีเทอร์ควอยซ์ และที่สำคัญคือน้ำตกคลองเจ้าที่ยังมีน้ำให้เล่นได้ตลอดทั้งปี การกางเต็นท์บนเกาะกูดจะมีตัวเลือกที่หลากหลายกว่านิดหน่อยบางรีสอร์ตหรือบังกะโลจะมีพื้นที่สำหรับแคมป์ปิ้งโดยเฉพาะหรือบางทีเราอาจจะเจอจุดเหมาะๆริมหาดที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวอย่างอ่าวพร้าวหรืออ่าวง่ามโข่แต่หลักการเดิมยังคงใช้ได้เสมอครับ คือ "การถามไถ่และขออนุญาต"คือหัวใจสำคัญที่สุด ฟีลลิ่งของการกางเต็นท์ที่เกาะกูดจะต่างจากเกาะหมากไปอีกแบบที่นี่เราอาจจะได้ยินเสียงน้ำตกคลอเคล้ามากับเสียงคลื่นเบาๆ ในบางจุดชายหาดบางแห่งมีความเป็นส่วนตัวสูงมากจนรู้สึกเหมือนเป็นหาดส่วนตัวของเราคนเดียวน้ำทะเลที่นี่ใสราวกับกระจก แค่เดินลงไปไม่กี่ก้าวก็เห็นฝูงปลาตัวเล็กๆแหวกว่ายอยู่รอบขา มันคือความรู้สึกของการได้อยู่ในโปสการ์ดสักใบ กิจกรรมบนเกาะกูดอาจจะแอดเวนเจอร์ขึ้นมาอีกนิดเราอาจจะขี่มอเตอร์ไซค์ลัดเลาะไปตามถนนที่สูงชันเพื่อไปเล่นน้ำตกคลองเจ้าหรือไปดำน้ำตื้น (Snorkeling) ตามอ่าวต่างๆที่มีแนวปะการังเล็กๆ ให้พอได้ชื่นชม แต่สุดท้ายแล้วเมื่อพระอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลง เราก็จะกลับมายัง "บ้าน" ของเรา...เต็นท์หลังน้อยที่ตั้งตระหง่านรออยู่ริมหาด การได้นั่งมองพระอาทิตย์ตกดินหน้าเต็นท์พร้อมกับก่อกองไฟเล็กๆ (ในจุดที่ปลอดภัยและได้รับอนุญาต) ย่างบาร์บีคิวง่ายๆหรือแค่ต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกิน มันคือมื้ออาหารที่อร่อยที่สุดในโลกเพราะมันไม่ได้ปรุงด้วยเครื่องปรุงรสเลิศ แต่ปรุงด้วยบรรยากาศและอิสระที่เงินก็หาซื้อไม่ได้ ข้อควรรู้เล็กๆน้อยๆ สำหรับชาวแคมป์ริมเล การไปกางเต็นท์ในที่ที่ไม่ใช่ลานกางเต็นท์โดยตรงแบบนี้มีเรื่องที่เราต้องใส่ใจเป็นพิเศษครับ
- ขออนุญาตเสมอ: อย่าสุ่มสี่สุ่มห้าไปกางนะครับ ที่ดินทุกที่เป็นของมีเจ้าของ ลองเดินเข้าไปถามเจ้าของรีสอร์ต บังกะโล หรือชาวบ้านแถวนั้นดีๆ ด้วยรอยยิ้ม คนไทยใจดีครับ ส่วนใหญ่ถ้าไม่รบกวนใคร เขาก็ยินดีให้เราพักพิง
- Leave No Trace: กฎเหล็กของชาวแคมป์ คือ "มาอย่างไร กลับไปอย่างนั้น" หรือดีกว่าเดิมได้ยิ่งดี ขยะทุกชิ้นต้องเก็บกลับไปทิ้งในที่ที่จัดไว้ให้ อย่าทิ้งอะไรไว้ นอกจากรอยเท้าและภาพความทรงจำดีๆ
- เตรียมตัวให้พร้อม: นอกจากอุปกรณ์แคมป์ปิ้งพื้นฐานแล้ว ยาฉีดกันยุงและทากันแมลงคือสิ่งจำเป็น ไฟฉายหรือตะเกียงก็สำคัญมาก เพราะกลางคืนจะมืดสนิท และ Power Bank คือเพื่อนรักที่ขาดไม่ได้เลย
- เคารพธรรมชาติและเพื่อนบ้าน: เราไปในฐานะ "ผู้มาเยือน" ไม่ใช่เจ้าของ อย่าส่งเสียงดังรบกวนคนอื่นหรือสัตว์ในพื้นที่ และระวังเรื่องการใช้ไฟให้มากที่สุด
ท้ายที่สุดแล้วการได้ไป กางเต็นท์ ริมทะเล ที่เกาะหมากและเกาะกูดมันเป็นมากกว่าแค่การไปเที่ยวครับ มันคือการเดินทางเพื่อกลับไปหาความเรียบง่าย คือการเรียนรู้ที่จะอยู่กับตัวเองและธรรมชาติอย่างถ่อมตนมันคือการพิสูจน์ว่าความสุขที่แท้จริง ไม่ได้ต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันแต่ต้องการแค่พื้นที่เล็กๆ ที่ปลอดภัย ชายหาดที่งดงาม เสียงคลื่นที่กล่อมเกลาจิตใจและท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว... หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์แบบนี้อยู่ลองเก็บกระเป๋า แพ็คเต็นท์ แล้วข้ามทะเลไปหาเกาะหมาก-เกาะกูดดูสิครับ ไปตามหา"จุดกางเต็นท์เล็กๆ ของชายหาด" ในแบบฉบับของคุณเอง... แล้วคุณจะรู้ว่าสวรรค์บนดินที่แท้จริงนั้น หน้าตามันเป็นอย่างไร. อีกหนึ่งอย่างที่หลายคนชอบคือได้ทำอาหารเอง พกเตา พกอุปกรณ์ไปกางเต็นท์ใต้ต้นมะพร้าว ถึงจะดูเรียบง่ายแต่แฮปปี้สุด ๆ ใครที่กำลังหาที่เงียบ ๆ เบื่อรีสอร์ทหรือโรงแรมลองมาเที่ยวเกาะหมากหรือเกาะกูดแล้วกางเต็นท์ริมทะเลดูสักครั้งรับรองว่าจะติดใจจนอยากกลับไปซ้ำแน่นอน
| 
ดันกระทู้
ปักหมุดกระทู้
ปิดกระทู้
เปิดกระทู้
เน้นสีกระทู้
ดันโพสต์
คนโพสต์ล่าสุด
